เนื่องจากราคาที่ลดลงมาอย่างมากในปีที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์ใหม่ๆ จำนวนมากจึงมาพร้อมกับหน่วยความจำ 4 GB แม้จะเป็นเครื่องในรุ่นประหยัดก็ตาม ผู้ผลิตจำนวนมากได้ติดตั้ง Windows รุ่น 64 บิตบนพีซีของตนเป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้หน่วยความจำทั้งหมดที่พวกเขาซื้อมาได้ บางรายถึงกับมีการวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์ใหม่ที่มี Windows รุ่น 64 บิตทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นการยากที่จะบอกถึงความแตกต่างระหว่างพีซีที่ใช้หน่วยความจำ 4 GB และ 3.5 GB ก็ตาม
สำหรับการใช้งานจริงในแต่ละวัน ผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างระหว่างความพิวเตอร์ที่ใช้หน่วยความจำ 3 GB กับเครื่องที่ใช้หน่วยความจำ 6 GB แล้วใครกันจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างดังกล่าว อย่างไรก็ดี ถ้าคุณรู้จักผู้ที่เปิดข้อความอีเมล 30-40 ฉบับ โปรแกรม 12 โปรแกรม และรายการอื่นๆ อีกสองสามรายการในคราวเดียวกัน พร้อมกับที่เล่นวิดีโอไปด้วย คุณจะเข้าใจเรื่องนี้ได้มากขึ้น
การมีหน่วยความจำที่พร้อมใช้งาน 4 GB ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณตอบสนองได้เพิ่มขึ้น ถ้าคุณชอบที่จะเรียกใช้งานสิ่งต่างๆ ในคราวเดียวกัน และมักไม่ค่อยปิดโปรแกรมใดๆ
ผู้ที่เล่นเกมพีซีอย่างจริงจังอาจสนใจพีซีที่ใช้ Windows รุ่น 64 บิต เกมต่างๆ เป็นบางส่วนของโปรแกรมที่ต้องเน้นฮาร์ดแวร์มากที่สุด ซึ่งคุณสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถสูงทางด้านกราฟิก เสียง และการโต้ตอบ
รุ่น 64 บิตของ Windows 7 รุ่น Ultimate, Enterprise, และ Professional สามารถใช้หน่วยความจำได้ถึง 192 GB (ซึ่งมากกว่าที่ผู้ใช้ระดับสูงโดยทั่วไปต้องการ) ซึ่งทำให้เหมาะสมที่สุดสำหรับงานการคำนวณที่มีรูปแบบเฉพาะที่ต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมาก เช่น การจัดการกราฟิก 3 มิติ
ประสิทธิภาพทั้งหมดที่ได้รับในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows รุ่น 64 บิตจะมาจากหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น รวมกับตัวประมวลผล 64 บิตประสิทธิภาพสูงที่สามารถใช้หน่วยความจำพิเศษดังกล่าวได้
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่เรียกใช้โปรแกรมเพียงแค่สองสามโปรแกรมในคราวเดียวกัน หน่วยความจำ 4 GB หรือมากกว่านั้นไม่มีประโยชน์มากกว่าคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยความจำ 2 GB และใช้ Windows รุ่น 32 บิต
ติดตามเรา